ชาวไทใหญ่อุดมด้วย ยาเถื่อน ยาป่า สารพัด สาเหตุหลัก เป็นเพราะทางรัฐบาลพม่า ไม่อาจจัดสรรระบบการแพทย์สมัยใหม่ไปได้ทั่วถึง ดังนั้น สรรพความรู้โบราณของคนในรัฐฉาน จึงยังดำรงอยู่อย่างมั่นคง โดยเฉพาะการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และการบำรุงร่างกาย ซึ่งหมอยาไทใหญ่เชี่ยวชาญยิ่งนัก จนแม้ชาวบ้านและทหารไทใหญ่ ที่อยู่กินกับแผ่นดินผืนป่ามาตลอด พวกเขาต่างมีความรู้ ในเรื่องของอาหารเสริม ยาบำรุงตามตำรับโบราณมาอย่างดียิ่ง จึงแข็งแรงสุด ๆ ไม่ค่อยป่วย ไม่ค่อยแก่
ตำรับยาบำรุงร่างกายแบบไทใหญ่โบราณ ที่นำเอาส่วนประกอบสำคัญ 4 อย่าง อันได้แก่ แสนดอก แสนหมาก แสนหัว แสนใบ มาประชุมรวมกันปรุงเป็นยาวิเศษ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
หญ้าแสนยา
“แสนดอก” คือ “น้ำผึ้ง” เพราะผึ้งสะสมน้ำหวาน จากดอกไม้เป็นแสนมารวบรวมไว้
“แสนหมาก” เจ้าบอกว่าหมายถึง “อีก้าง” อีก้างเป็นลิงชนิดหนึ่งกินผลไม้นานานับแสนชนิดซะทั่วป่า ทางไทยเรียกว่า “ค่าง” คนไทใหญ่จะใช้กระเพาะค่าง มาตากแห้งบดให้เป็นผงไว้ผสมตัวยา
“แสนหัว” หมายถึงตัว “เม่น” ที่มีขนแหลม ๆ ที่เรียกแสนหัวก็เพราะ ตัวเม่นจะคอยขุดหาคุ้ยกินรากไม้หัวไม้นานาสารพัด นี่ก็ใช้กระเพาะเม่นตากแห้งบดเป็นผงเช่นกัน
“แสนใบ” อันหมายถึง “ตัวเยิง” หมายถึง “แพะป่า แพะภูเขา” อันหมายถึงตัว “เลียงผา” คนไทใหญ่แต่โบราณ จะใช้กระเพาะตัวเยิงตากแห้งบดเป็นผง
และนำสี่ส่วนประกอบนี้มาผสม ให้เข้ากันแล้วปั้นเป็นก้อนยาลูกกลอน โดยมีแสนดอก (น้ำผึ้ง) ทำหน้าที่เป็นน้ำน้อก (น้ำผสม) ใช้กินบำรุงร่างกาย แก้โรคภัยไข้เจ็บได้หลากหลายนานา ทั้งยังใช้บำรุงปอดแก้โรคปอด บำรุงตับแก้โรคตับ แก้คัน บำรุง เลือด บำรุงร่างกาย ชะลอความแก่ และเจ้ายังบอกด้วยว่า ถ้าไม่ทำเป็นยาลูกกลอน จะใช้แสนหมากแสนหัว แสนใบผสมกันดองในแสนดอก (น้ำผึ้ง) ตากแดดกินก็ได้ คนโบราณไทใหญ่เรียกยาสูตรนี้ว่า “หญ้าแสนยา” ฟังดูแล้วเหมือนจะเป็นยาครอบจักรวาลเลยก็ว่าได้ เพราะว่าที่ได้ชื่อนี้มาเนื่องจาก “โรคทุกชนิดแสนโรค จะป่วยเจ็บอย่างไร ยาตัวนี้รักษาให้หายได้”
ใบบัวบก
“อีกชนิดหนึ่งคือ ผักหนอก (ใบบัวบก) จะใช้ผักหนอกทั้งต้น เอาทั้งรากทั้งใบมาตากในร่ม ไม่ให้โดนแดด แล้วตำเป็นผงผสมกับพริกป้อม (พริกไทยดำ) บดผง มีน้ำผึ้งเป็นน้ำน้อก (น้ำประสาน) ใช้แค่สามชนิดนี้ ทำเป็นยาลูกกลอนก็ได้ยาดีแล้ว สัดส่วนที่ใช้คือ ผักหนอก 3 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน คนเฒ่าใช้กินเป็นยาบำรุงสายตา บำรุงเลือด บำรุง ร่างกาย รักษาโรคได้ทุกชนิด ปอดเจ็บก็กินได้ ตับเจ็บก็กินได้ ใครกินข้าวไม่อร่อยใช้ยาตัวนี้ จะกินข้าวอร่อยขึ้น ถ้าเดินทางไม่มีกำลัง กินยาตัวนี้เดินทางได้ดี

ใบบัวบกหรือผักหนอก ถือเป็นยาบำรุงสมองอย่างดีมาก ๆ ชาติตะวันตกเรียกบัวบกว่า Brain Tonic กินแล้วจะคืนความเป็นหนุ่มเป็นสาว ส่วนพริกไทยก็มีสารบางอย่าง ที่ช่วยในการดูดซึมยาทุกตัว กินพริกไทยแล้ว จะช่วยให้สามารถดูดซึมยาตัวอื่นได้มากขึ้น
ผักกาด
สำหรับสูตรยาบำรุงกำลัง ช่วยให้แข็งแรงคึกคักอยู่เสมอ อีกตำรับหนึ่งก็คือเอาเม็ดพันธุ์ผักกาด ชนิดที่มีดอกเหลือง ๆ นั้นแหละ มาตากแห้งแล้วตำให้เป็นผง ใช้น้ำผึ้งมาเป็นน้ำน้อก (น้ำประสาน) เพียงแค่ 2 ชนิดนี้ มาทำยาลูกกลอน ใช้กินทุกเช้าหลังอาหารและก่อนนอน ยาตำรับนี้ “บำรุงกำลังดีมาก ถ้าวิ่งไม่ได้ กินแล้วจะวิ่งได้วิ่งดี

สำหรับสูตรยาบำรุงกำลัง ช่วยให้แข็งแรงคึกคักอยู่เสมอ อีกตำรับหนึ่งก็คือเอาเม็ดพันธุ์ผักกาด ชนิดที่มีดอกเหลือง ๆ นั้นแหละ มาตากแห้งแล้วตำให้เป็นผง ใช้น้ำผึ้งมาเป็นน้ำน้อก (น้ำประสาน) เพียงแค่ 2 ชนิดนี้ มาทำยาลูกกลอน ใช้กินทุกเช้าหลังอาหารและก่อนนอน ยาตำรับนี้ “บำรุงกำลังดีมาก ถ้าวิ่งไม่ได้ กินแล้วจะวิ่งได้วิ่งดี
หญ้าปู่หย่อง
สูตรยานี้ บอกเล่าถึงต้นไม้สำคัญที่หมอยาไทใหญ่ ใช้กันอย่างเชี่ยวชาญมาก ๆ คือ “ต้นกระท่อมเลือด” ที่คนไทใหญ่มักเรียกกันว่าต้น “เป้าเลือดโห” มีสรรพคุณในทางแก้เลือดลม ลดความดัน บำรุงผู้หญิง ใช้แก้เบาหวาน หากนำไปผสมกับยาอื่น ๆ จะ ออกฤทธิ์ทำให้ง่วงนอน คนไทใหญ่ใช้เป้าเลือดโหเข้ายาได้ทุกอย่าง จะนำมาต้มกินทำเป็นผง หรือทำเป็นยาดองก็ได้
“ต้นกระท่อมเลือด” หรือ “ต้นเป้าเลือดโห” เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “หญ้าปู่หย่อง” ที่มักจะขึ้นตามหน้าผาหินปูน มาต้มอาบต้มกิน แต่การใช้หญ้าปู่หย่องของคนไทใหญ่ เพื่อรักษาอาการซีดเซียว ไม่มีเรี่ยวแรงของผู้หญิง และยังช่วยให้ดูไม่แก่อีกด้วย แต่การปรุงยานั้นค่อนข้างจะซับซ้อนอยู่บ้าง การใช้สมุนไพรตัวนี้ จึงควรใช้อย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ
เป็นเรื่องน่ายินดีที่สรรพตัวยาบำรุงร่างกาย บำรุงกำลังของคนไทใหญ่ อันสืบต่อมาแต่โบราณนั้น ยังสืบต่อถึงปัจจุบันได้หลากหลายนัก