ถ้าพูดถึงนกที่ฉลาดที่สุดในโลกแล้วล่ะก้อ คงจะหนีไม่พ้นนกแก้วแอฟริกันเกรย์นั่นเอง แล้วถ้าจะพูดถึงนกอันดับแรกที่มีคนต้องการเลี้ยงมากที่สุด เจ้าแอฟริกันเกรย์สายพันธุ์นี้ ก็ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 1 มาโดยตลอด ในไม่อีกกี่วันข้างหน้านี้ ก็จะรับเขาเข้ามาเป็นสมาชิกนกตัวที่ 7 ล่ะครับ
นกแก้วแอฟริกันเกรย์ เป็นนกแก้วในตระกูลปากขอขนาดกลาง ตามสายพันธ์ุของเขาแล้วมีอยู่ 2 สายพันธุ์หลัก ๆ ที่แตกต่างกันแค่ขนาด สีสัน ตามถิ่นกำเนิดของเขาเท่านั้นเอง
1. Congo African Grey Parrot จะมีลำตัวใหญ่กว่า Timneh African Grey Parrot มีขนาดอยู่ที่ 30.5 – 36 เซนติเมตร ที่ปลายของหางจะมีสีแดง นกแก้วชนิดนี้จัดได้ว่าเป็นนกแก้วที่มีความฉลาดมาก มีความสามารถในการเลียนเสียงได้มาก (กล่าวกันว่าสามารถเลียนเสียงได้มากถึง 212 เสียง ตลอดชั่วชีวิต) มีนิสัยร่าเริง ชอบออกกำลังกาย และมีร่างกายที่แข็งแรง ในบ้านเราที่เลี้ยง ๆ กันอยู่จะเป็นสายพันธุ์นี้ครับ
Ghana African Grey จะมีสีแตกต่างเล็กน้อย คือจะมีสีชมพู แดง แซมอยู่ตามลำตัว แต่ทั้งนี้ก็ยังจัดอยู่ในสายพันธุ์ Congo อยู่ครับ เนื่องจากอยู่ในภูมิลำเนาเดียวกัน
2. Timneh African Grey Parrot จะมีขนาดที่เล็กกว่า เมื่อเทียบกับ Congo African Grey Parrot โดยมีช่วงลำตัวอยู่ที่ 28-33 เซนติเมตร ลำตัวมีสีเทาทั้งตัว ที่หางมีสีดำเข้ม นกแก้วชนิดนี้มีความจำที่ดีเป็นเลิศ สามารถจำเสียงและเปร่งเสียงที่จำหรือได้ยินได้ในทันที และเมื่อกล่าวถึงความจำของนกแก้วชนิดนี้แล้ว สามารถจำเสียงที่ได้ยินบ่อย ๆ (เสียงที่คนอยากให้จำ) ได้มากถึง 200 กว่าเสียง และเมื่อจำแล้วก็จะจำไปจนตลอดชั่วชีวิต
นกแก้วแอฟริกันเกรย์เป็นนกที่มีอายุยืน ซึ่งอายุจะอยู่ที่ราวๆ 50 – 60 ปี (หากไม่มีโรค)
แอฟริกันเกรย์เป็นนกที่มีความฉลาด ดังนั้นมักจะระแวงสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร สถานที่ คนแปลกหน้า แต่นกจะไม่เล่นกับคนแปลกหน้า จะอยู่กับเจ้าของที่เลี้ยงดูมาเป็นหลัก และนอกจากนี้ นกยังสามารถเลียนแบบท่าทางต่าง ๆ ได้ด้วย เช่นการเต้นแบบใช้คอ ใช้ปีกเป็นแขน เป็นต้น
นกแอฟริกันเกรย์เหมาะกับผู้ที่ต้องการเลี้ยงเป็นเวลานาน ๆ และมีเวลาว่างให้กับนกพอสมควร เพราะนกจะชอบอยู่กับคน หากไม่มีกิจกรรมระหว่างคนเลี้ยงกับนกเป็นเวลานาน นกจะเกิดอาการเหงา และ ซึมเศร้า และจะทำร้ายตัวเอง
เครดิตภาพจาก Wikipedia