ทุกคนต้องทำงานอะไรสักอย่าง จะเป็นงานส่วนตัว งานบริษัท งานค้าขาย งานบริการ ซึ่งบางคนก็มีความสุขกับงานที่ทำอยู่ บ้างก็บ่นว่างานหน้าเบื่อ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องทำงานกันอยู่ดี จริงไหมครับ วิธีที่จะทำงานให้มีความสุข คือ ต้องรู้สึกสนุกกับงาน เรื่องนี้ สอนกันยากหน่อยว่าต้องทำอย่างไร ต้องศึกษาหาวิธีกันเอาเอง ซึ่งถ้าหาไม่ได้จริงๆ ก็แนะนำให้เปลี่ยนงานที่ทำนั่นเสียเลย ในการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุดนั้น มีเทคนิคของผู้มีชื่อเสียงหลายๆ ท่าน มาแนะนำบอกเล่าให้ฟัง 13 วิธี ดังนี้ครับ
1. “ไม่มีการนัดหมายในวันพุธ” (No Meeting Wednesday’s)
โดย Dustin Moskovitz, The Co-Founder and CEO of Asana and Former Co-Founder of Facebook
No Meeting Wednesday’s เป็นธรรมเนียมที่ยืมมาจาก Facebook ตารางนัดของทุกคนจะต้อง “ว่างโดยปราศจากนัด” 1 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้มีเวลาสำหรับทำงานได้อย่างต่อเนื่องจริงๆ
2. ทำงานตอนดึกๆ วันอาทิตย์
โดย Bharath Kumar, A Co-Founder at Pugmarks.me
ช่วงวันอาทิตย์ตอนดึกๆ ช่วงเวลาที่วันหยุดหมดลง เป็นช่วงเวลาที่ความคิดที่เกิดในช่วงวันหยุดถูกสะสมไว้ คนอื่นๆ ในบ้านก็หลับกันหมดแล้ว วันจันทร์ก็ยังมาไม่ถึง
ถ้าเริ่มทำงานคืนวันอาทิตย์แล้วนอนดึกๆ เช่นตี 3 คุณจะมีเวลาที่ไม่มีใครมารบกวนและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงมากถึง 4 ชั่วโมง จากนั้นวันจันทร์คุณจะตื่นมาพบกับเพื่อนร่วมงานด้วยความมั่นใจ พร้อมทำงานในสัปดาห์นั้นๆ
3. จัดลำดับความสำคัญของงาน (Prioritization) เพิ่มประสิทธิภาพ
โดย Matt DeCelles, A Serial Entrepreneur and Tech Advisor
จัดลำดับความสำคัญของงานที่คุณต้องทำให้เสร็จ
- ใช้ trello.com ในการวางภาพกว้างๆ ว่าต้องทำอะไร แล้วกระจายงาน ที่ถ้าเอาให้คนอื่นทำแล้วน่าจะดีกว่าเราทำเอง
- กระจายงาน! คุณอาจจะสนุกกับงานที่ทำอยู่ และคิดว่าได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว? หรือคุณคิดว่าคุณทำมันได้แย่มาก ยังไงก็ลองหาคนอื่นมาช่วยบ้างก็ได้ มี Freelance ราคาถูกๆ ไม่แพงมากมายใน fiverr.com
- ใช้ Whiteboard เพื่อ list งานที่ต้องทำทั้งหมด หลังจากใช้ trello แล้ว ก็เขียนลง whiteboard ปกติแล้วจะมี 10-15 tasks ที่สำคัญๆ
4. “ทำสมองให้ว่าง” สูงสุดคืนสู่สามัญกับการบริหารจัดการเวลาแบบดั้งเดิม
โดย Paul A. Klipp, A Lean Software Development Specialist
ทำสมองให้ว่าง แล้วลองเริ่มนึกใหม่ว่าต้องทำอะไรบ้าง จากนั้นก็จดลงกระดาษในรูปแบบของ Mind Map เพื่อจะเอาไปทำงานต่อ ถ้าระหว่างนั้นมีอะไรนอก list ที่จดไว้เกิดขึ้นมาใหม่ ให้แยกก่อนว่าเป็นประเภทไหน ใน 3 ประเภทนี้ แล้วก็จัดการมันตามสูตรซะ
- “ต้องทำทันที” (Things to Do Now) เช่น รับโทรศัพท์ อันนี้ก็ทำไป เพราะเลี่ยงไม่ได้
- “ต้องทำในไม่ช้า” (Things to Do Soon) เช่น ส่งใบเสร็จให้เจ้าหน้าที่บัญชี จดลงกระดาน “วันนี้” หรือ “สัปดาห์นี้”
- “ต้องทำสักวัน” (Things to Do Someday but Not Urgently) เอาใส่ลงในกล่องสำหรับที่ต้องรีวิวทุกสัปดาห์ตอนทำการวางแผนประจำสัปดาห์เพื่อพิจารณาเอาลงในตารางงานอาทิตย์หน้า หรือไม่ก็เอาใส่ Mind Map ไป
5. กำหนด “วันบนเครื่องบิน” (Airplane Days)
โดย Bryan Guido Hassin, A University Professor and Startup Junkie
หลังจากพบว่าระหว่างการเดินทางบนเครื่องบินนานๆ เป็นช่วงที่ทำงานได้ประสิทธิภาพสูงมาก ก็เลยหาทางประยุกต์มาใช้กับชีวิตประจำวัน โดยนำแนวคิดของการจำกัดการใช้งาน Internet ลดสิ่งกวนใจ (Distractions) และลดความวุ่นวายด้วยการทำรายการงานที่มีความสำคัญสูงและเร่งด่วนมาใช้
เทคนิคคือ พอเริ่มต้นอาทิตย์ก็ดูที่ตารางนัดและลงวันว่าง 1 วัน หรือ หาวันว่างครึ่งวัน 2 ครั้ง เป็น “Airplane Days” คือ ทำวันนั้นให้เหมือนดังเดินทางอยู่บนเครื่องบิน โดยอาจจะทำงานนอกออฟฟิศ ปิด Internet ปิดโทรศัพท์ จากนั้นก็ทำงานด้วยประสิทธิภาพสูงสุด!
6. เริ่มวันด้วยการทำ “งานที่ไม่อยากทำที่สุดก่อน”
โดย Alok Bhardwaj, The Founder of Hidden Reflex, A Software and Web Application Product Startup
6 คำแนะนำสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพจาก Alok คือ
- ทำงานที่ “ไม่อยากทำมากที่สุด” เป็นอันดับแรกในตอนเช้า ให้เวลากับมัน 2-3 ชั่วโมงต่อเนื่อง จนกระทั่งทำเสร็จ โดยทำมันก่อนอ่าน email หรือ อะไรอย่างอื่นทั้งนั้น
- อย่าอ่านข่าว หรืออะไรอย่างอื่นที่คล้ายๆ กันระหว่างทำงาน
- ที่ทำงาน ไว้ทำงานเท่านั้น
- ทำ Daily to-Do list ที่มี 3-5 งานที่คุณ “ต้องทำให้เสร็จให้ได้”
- อย่าพยายามจะทำเยอะเกินไป และอย่า Optimize มากเกินไป จงกระจายงาน และ Focus ที่ภาพใหญ่
- ออกกำลังกายและทำสมาธิทุกวัน
7. อย่าเสียเวลาขณะที่อยู่โต๊ะทำงาน (Never Waste Desk Time)
โดย Gokil Nath Sridhar, An Entrepreneur
3 Tips ที่จะลดสิ่งรบกวนให้ต่ำที่สุด
- เช็คอีเมล์ระหว่างเดินทาง
- ปิดเสียงโทรศัพท์ และ Offline Facebook & Skype โปรแกรม Chat ขณะทำงาน
- ใช้บริการ Do-It-Later เช่น Pocket เพื่อลดเวลาที่เสียไประหว่างการท่องเว็บที่สนใจแต่ทำให้เสียสมาธิ
8. งดใช้ Facebook “บ้าง”
โดย Roman Grigorjev, The Chief Yeti at GuessMate
ทุกคนรู้อยู่แล้วว่า Social Media เป็นตัวทำให้สมาธิเสียแล้วจะทำอย่างไรดี?
https://www.facebook.com/friends/organize ลิงก์นี้จะทำให้คุณสามารถย้าย “friends” ทุกคนไปเป็น “acquaintances” ผลคือ คุณจะได้รับ Update สำหรับ Post ที่สำคัญที่สุดเท่านั้น ซึ่งอย่างมากก็ 3-5 Posts ต่อวัน จะไม่มี Post เรื่อยเปื่อยหลุดมาให้เสียเวลาอ่าน
9. ลดการรบกวน เพื่อให้มีสมาธิมากขึ้น
โดย Daniel Tan Kh, A Web Entrepreneur
- Deligate! กระจายงาน เชื่อว่าลูกน้องคุณทำได้ การกระจายงานเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด การมีคนมาช่วยทำงาน จะทำให้คุณสามารถมีเวลาทำงานตัวเองมากขึ้น 2-4 เท่า และเป็นสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของบริษัท
- Autonomy! การปล่อยให้รับผิดชอบงานเอง ทำให้คนทำงานออกมาได้ดี (เมื่อคุณจ้างคนดีๆทำงานด้วย)
- Systematic, Automate! ทำให้เป็นระบบอัตโนมัติ ทุกอย่างที่ทำขอให้มั่นใจว่าทำเป็นระบบอัตโนมัติที่สุดแล้ว ทำให้มันใช้งานง่ายที่สุดเพียงแค่คลิกหรือกดปุ่ม
- Dual Control! ถ้าจำเป็นที่ต้องระวังเรื่องอะไรสำคัญ ให้ใช้อีกคนมาดูด้วย
- Customer is Boss, Not You! ลูกค้าคือหัวหน้าใหญ่สุด ไม่ใช่เรา ลูกค้าจ่ายเงินให้เราทุกคน เราต้องดูว่าลูกค้าพอใจแค่ไหน ถามว่าเค้าต้องการอะไร และให้ลูกค้าคุยกับพนักงานของคุณเองเลย
10. “กฎ 2 นาที” อันเลื่องชื่อของ David Allen
โดย Christian Sutardi, A Co-Founder at Lolabox
ง่ายมากสำหรับเทคนิคนี้ เมื่อมีงานเข้ามาใหม่ให้ลองประเมินดูว่า จะทำมันให้เสร็จได้ไหม ในเวลา 2 นาที ถ้าได้ก็ทำให้เสร็จในเวลานั้น
11. มองหา “ชั่วโมงทองคำ” (Golden Hours)
โดย Jason Kanigan, A Sales Trainer
หา “ชั่วโมงทองคำ” ของคุณให้เจอและตัดสิ่งรบกวนทุกอย่างที่ทำได้ออกให้หมด แล้วใช้ช่วงเวลานั้นทำงานชิ้นที่คุณไม่อยากทำมากที่สุด ยากที่สุด น่าเบื่อที่สุด เพื่อตัดมันออกจากระบบของคุณ
12. ประยุกต์ใช้เทคนิคทางจิตวิทยาขั้นสูงที่คุณทำได้เอง
โดย Ivan Staroversky, A Counselor, Psychotherapist, NLP Trainer, and Lifehacker
ฟัง “Ultradian Rhythms” สัญญาณจากร่างกายของตัวเอง
ทุกๆ 90-120 นาทีจะมีสัญญาณจากร่างกายที่จะบอกว่า ต้องการพักหรือเปลี่ยนอิริยาบททั้งทางร่างกายและจิตใจ การเพิกเฉยต่อสัญญาณนี้ไม่ใช่เรื่องดี เพราะจะทำให้เกิดอาการเครียด ล้า หรือถึงขั้นป่วยได้
13. ปรับแต่งการใช้งาน Gmail แบบเหนือชั้น ด้วย “Auto Advance”
โดย Rob Rawson, The Founder of Staff.com
เปิดใช้งาน “Auto Advance” แล้วมันจะดึง email ฉบับต่อไปขึ้นมาโชว์ทันที่ที่คุณกด Archive Email ที่คุณเพิ่งอ่านเสร็จ นี่จะเป็นการช่วยทำให้รักษาเป้า Zero Inbox และทำให้คุณไม่ต้องอ่านเมล์ที่อ่านไปแล้วอีกซ้ำๆ อีกต่อไป!
คลิกที่นี่เพื่อเปิดใช้งาน Auto Advance
พยายามใช้ Tools หรือระบบต่างๆ ของโปรแกรมหรือแอพนั้นๆ เพื่อลดเวลาในการทำงานของคุณให้ได้
ที่มา :
http://www.businessinsider.com…rite-productivity-hacks-2013-8
http://ninelouis.com/content/1…ity-tips-to-get-more-work-done