ความคิดครั้งแรกตั้งใจว่าจะปลูกต้นไม้จากต้นกล้า ไม่ใช้ไม้ล้อมเลย เป็นอันต้องใจละลายล้มเลิกไป เมื่อไปเดินเจอไม้มงคลไทยโบราณในงานกาชาด ก็เลยจัดมาซะ 11 ต้น โดยเลือกเอาไม้มงคล กันเกรา มาปลูกไว้บริเวณหน้าบ้านเป็นต้นแรก รอปรับที่ดินเสร็จเรียบร้อย ก็จะเริ่มทะยอยปลูกต้นอื่น ๆ ตามมาครับ
บุนนาค เป็นไม้ยืนต้นเนื้อแข็งขนาดใหญ่ พบได้ในป่าดิบชื้น ตามริมห้วย ลำธาร ที่ระดับความสูงไม่เกิน 6-700 เมตร ต้นสูงประมาณ 25-30 เมตร เป็นไม้เนื้อแข็ง ลำต้นสีน้ำตาล ใบเดี่ยวเรียงสลับใบอ่อนจะมีสีแดง ดอกสีขาวหอมเย็น ออก เป็นกระจุก 2-1 ดอก กลีบดอกรูปไข่กลับ ปลายกลีบย่นเล็กน้อย ออกดอกระหว่างช่วงฤดูร้อนถึงฤดูฝน
พะยอม เป็นไม้เนื้อแข็ง ต้นสูง 15-30 เมตร เส้นผ่าศุนย์กลางของลำต้นอาจยาวถึง 300 เซนติเมตร เปลือกต้นมีสีน้ำตาลหรือสีเทาเข้ม แตกเป็นร่องตามยาวและเป็นสะเก็ดหนา ส่วนเนื้อไม้มีสีเหลืองถึงสีน้ำตาล ลักษณะของต้นเป็นทรงพุ่มกลมสวยงามมาก แตกกิ่งก้านจำนวนมาก ดอกสีขาว กลิ่นหอมจัดออกเป็นช่อใหญ่ตามกิ่งและปลายกิ่ง ออกดอกในช่วยเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ หอมทั้งตอนเช้าและเย็นเลยทีเดียว
ประยงค์ เป็นไม้พุ่มกึ่งไม้ต้นขนาดเล็ก สูง 2-3 เมตร แตกกิ่งก้านตั้งแต่โคนต้น เปลือกต้นเรียบ สีเทา ใบ ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบ มีสีเหลือง กลีบดอกมี 6 กลีบ ซ้อนกันเป็นรูปทรงกลมไม่บาน ประยงค์จะหอมในตอนเช้า และออกดอกตลอดทั้งปี เหมาะที่จะปลูกไว้ใกล้ตัวบ้านหรือห้องนอน
ลำดวน เป็นไม้ต้นขนาดกลาง สูง 5-20 เมตร โตค่อนข้างช้า ไม่ผลัดใบ ลำต้นตรง มีเปลือกสีน้ำตาล แตกขรุขระเป็นสะเก็ด ดอกมีกลิ่นหอมเย็น ๆ ส่งกลิ่นช่วงเย็นกับช่วงเช้า พอแดดเริ่มแรงกลิ่นก็จะเริ่มจางหายไปและกลับมามีกลิ่นชัดขึ้นอีกครั้งตอนเย็น ดอกจะเริ่มออกให้เห็นตั้งแต่เดือนธันวาคมจนถึงมีนาคมหรือลากยาวไปถึงเมษายน
จำปีแดง เป็นไม้ขนาดกลาง ชอบแสงแดด ออกดอกที่ยอด ดังนั้น ถ้าทำให้เขามีแตกยอดเยอะ ๆ ก็จะให้ดอกที่เยอะตามไปด้วย กลิ่นไม่หอม และดอกจะร่วงและโรยเร็วไปหน่อย แลกกับสีสันของดอกที่แปลกตาครับ
ศรีตรัง เป็นไม้ขนาดกลาง สูง 5-10 เมตร ผลัดใบร่วงมาก ดอกสีม่วงอ่อนและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ออกดอกเป็นช่อใหญ่ตามกิ่ง ดอกสีม่วง กลีบดอก 5 กลีบเชื่อมกันเป็นหลอด ออกดอกช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม
จิกสวน ไม้พุ่มหรือยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง แตกกิ่งก้านสาขามากมายรอบๆ ต้น มีความสูงได้ประมาณ 2-20 เมตร เปลือกลำต้นมีลักษณะขรุขระเป็นสีน้ำตาลปนเทา ใบดกและนำมาทานได้ ดอกเป็นช่อห้อยลง โดยจะออกที่ปลายยอด ช่อดอกมีความยาวประมาณ 20-70 เซนติเมตร ก้านช่อดอกเป็นสีชมพูและเขียว ลักษณะของช่อดอกคล้ายกับแปรงล้างขวด โดยจะออกดอกในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนสิงหาคม
จิกน้ำ เป็นไม้ยืนต้นประเภทผลัดใบ มีความสูงประมาณ 5-15 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มรีหรือแผ่กว้าง มีลำต้นเป็นปุ่มปม เปลือกสีน้ำตาลแตกเป็นร่องและเป็นสันแหลมตามยาว กิ่งก้านมักคดงอ ปลายกิ่งมักลู่ลง ออกดอกเป็นช่อกระจายที่ปลายกิ่ง ดอกห้อยลงมาเป็นระย้า ยาวประมาณ 30-40 เซนติเมตร ติดทนอยู่จนเป็นผล กลีบดอกสั้น ปลายแยกเป็น 4 กลีบ มีสีแดงหรือสีชมพู หลุดร่วงได้ง่าย เมื่อดอกบานพร้อมกันจะดูสวยงามมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงมีดอกจะทิ้งใบเหลือแต่ยอดอ่อนสีแดงจัด ก็ยิ่งทำให้ดูสวยงดงามเพิ่มขึ้นไปอีก และจะออกดอกในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม ใบของจิกน้ำสามารถเอามาทานได้เหมือนจิกสวน แต่อร่อยกว่าไม่ฝาดมาก แมลงชอบกินใบ
แก้วมุกดา เป็นไม้พุ่มรอเลื้อย ลักษณะเดียวกับต้นเฟื่องฟ้าที่เป็นไม้พุ่มรอเลื้อยเหมือนกัน ถ้าปลูกกลางแจ้งเป็นได้ทั้งไม้พุ่มเตี้ย ๆ ประดับสวนหรือเป็นไม้พุ่มสูง 2-3เมตร บังแดด ให้ร่มเงาก็ได้ ทรงพุ่มจะออกทางแผ่กว้างออกด้านข้าง แต่โตช้า อาจจะเลือกปลูกทางทิศตะวันตกหรือทิศใต้จะช่วยลดความร้อนที่เข้ามาในบ้านได้ แล้วไปเพิ่มกลิ่นหอม ๆ ฟุ้งกระจายไปรอบ ๆ บริเวณที่ปลูก กลิ่นจะหอมแรงขึ้นในช่วงอากาศเย็นหรือหลังจากฝนตกใหม่ ๆ ออกดอกตลอดปี เหมาะปลูกไว้ใกล้ตัวบ้านและห้องนอน
กันเกรา มีลักษณะต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 15-25 เมตร เปลือกสีน้ำตาลเข้ม แตกเป็นร่องลึกไม่เป็นระเบียบ ถือเป็นไม้มงคลหนึ่งในเก้าชนิด อันมีชื่อเป็นมงคลและมีคุณสมบัติที่ดีในการใช้ประโยชน์ คือชื่อกันเกรา หมายถึง กันสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายไม่ให้มาทำอันตรายใด ๆ ในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายนจะออกดอกเป็น ช่อสีเหลือง มีกลิ่นหอมขจรขจาย
จันดง เป็นไม้ขนาดเล็ก สูง 8-10 เมตร เปลือกเรียบสีน้ำตาลอมดำ ทรงพุ่มกลมแน่นทึบ ใบเดี่ยวเรียงเวียนสลับ รูปรี แผ่นใบหนาและเหนียว ใบแก่แข็งกรอบ ออกดอกเป็นช่อกระจุกตามกิ่งและลำต้น สีขาวอมเขียว ดอกแยกเพศอยู่ต่างต้นกัน มีดอกย่อยจำนวนมาก ดอกย่อยมีขนาด 1-1.5 เซนติเมตร ผลกลม ฤดูดอกบาน กุมภาพันธ์-มีนาคม ดอกบานเกือบพร้อมกันทั้งช่อ ทยอยบานใกล้เคียงกันเกือบทั้งต้น จะมีดอกบานและโรยภายใน 1 สัปดาห์ ส่งกลิ่นหอมแรง โดยเฉพาะในช่วงสาย ๆ จันดงเป็นต้นไม้ที่ต้องการน้ำค่อนข้างมาก และควรปลูกในที่มีแสงทั้งวัน