ต้องบอกว่า ไปเที่ยวคราวนี้ หาข้ออ้างเอางานมาบังหน้า จากการที่ไปร่วมประชุมโครงการ Natural Swimming Pool กับอาจารย์ ดร. เกษม จันทร์แก้ว ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มา ในตอนหนึ่ง ท่านได้กล่าวถึงการกรองน้ำเค็มของต้นโกงกาง ก็เลยปิ๊งขึ้นมาทันทีว่า ต้องไปจับกับมือดูกับตาให้ได้นึกถึงสมัยที่ยังทำโรงงานเฟอร์นิเจอร์อยู่ที่บางขุนเทียนชายทะเล เคยนั่งเรือออกไปทานข้าวในป่าชายเลนแถวๆ นี้ ก็เลยไปสอบถามอากู๋ในทันใดว่า มีที่ไหนให้พักในแถบนี้บ้าง และแล้ว ชุมชนแสนตอของลุงสอนและป้าเอื้อนก็ปรากฎขึ้นมาในทันใด จัดการโทรนัดหมายกับลุงสอนเสร็จสรรพ เจอกันวันเสาร์ครับ
เช้าวันเสาร์ ตื่นแบบไม่รีบร้อน เนื่องจากนัดลุงสอนไว้หลังเที่ยง ออกเดินทางจาก กม.8 รามอินทราด้วยรถตู้ไปลงอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ต่อด้วยรถปรับอากาศสาย 140 เพื่อไปลงที่ปากถนนบางขุนเทียนชายทะเล ที่จุดนี้ จะมีรถสองแถววิ่งต่อเข้าไปจนถึงโรงเรียนพิทยาลงกรณ์ อันเป็นจุดนัดหมายกับลุงสอนเลยครับ แต่รถค่อนข้างแน่น ประกอบกับอุปกรณ์ที่ขนไป ขาเข้าเลยโบกแท็กซี่เข้าไปเสียเลย
นั่งคอยอยู่ที่ศาลาท่ารถหน้าโรงเรียนไม่ถึง 5 นาที ลุงสอนก็ออกมารับที่ศาลารอรถหน้าโรงเรียน จากที่นี่ เราต้องนั่งเรือต่อเข้าไปอีก 2 กิโลเมตรกว่าๆ ครับ แป๊บเดียว
ที่พักจะเป็นห้องพักเล็กๆ ต่อเติมจากตัวบ้านของลุงสอน ที่มีกลุ่มนักศึกษาหาสปอนเซอร์ออกทุนเข้ามาสร้างให้ ตัวห้องพักนอนได้ประมาณ 6 คน เปิดหน้าต่างกางมุ้งนอนรับลมทะเลดีครับ ใครไม่อยากนอนในห้อง ก็สามารถเอาเต็นท์ไปกางนอนที่ลานดินได้ มีเต็นท์ให้บริการฟรีๆ อยู่หลายหลังเลยทีเดียว ดังนั้น ที่นี่ จึงสามารถรับผู้ที่จะมาเป็นหมู่คณะได้ เห็นว่าเคยรับถึง 30-40 ท่านมาแล้วอย่างสบายๆ ที่นอนไม่พอ ก็สามารถข้ามไปนอนบ้านหลายชายของลุงสอนแกได้
บริเวณหน้าบ้านจะติดกับท่าน้ำเลยทีเดียว พอจะบอกได้ว่า ก้าวเท้าขึ้นจากเรือก็ถึงบ้านแล้ว ส่วนหลังบ้านจะเป็นนากุ้งยาวถึง 1.5 กิโลเมตร สามารถไปพายเรือคายัคออกกำลังแขน หรือจะงมหอยแครง แคะหอยนางรมก็สามารถทำได้เลย ณ บ่อแห่งนี้ครับ ที่นี่ จะเลี้ยงในแบบธรรมชาติ เปิดน้ำเข้า ถ่ายน้ำออก ให้มีอาหารเข้ามาหมุนเวียนแก่กุ้งหอยปูปลาที่เลี้ยงเอาไว้ ลุงสอนแกแอบออแกนิกเสียด้วยสิ ตรงตามคอนเซปต์งานที่กำลังศึกษาอยู่พอดี
การมาพักที่นี่ ป้าเอื้อนจะทำอาหารเลี้ยงอย่างอิ่มหนำถึง 3 มื้อ ถ้ามาถึงที่นี่บ่ายโมง ก็จะมีมื้อเย็น มื้อเช้า และมื้อกลางวันก่อนกลับบ้านครับ อาหารเยอะจริงๆ แบบว่า ทานไปบ่นไปทีเดียว มื้อเย็น ปูทะเลนึ่ง ต้มยำกุ้ง ปลากระพงทอดราดยำมะม่วง และหอยแครงลวกที่เพิ่งไปงมมาเมื่อตอนบ่าย มื้อเช้าง่ายๆ กับกาแฟ ข้าวต้มกุ้งผสมปลาหมึก ส่วนมื้อกลางวัน ก็จัดหนักอีกรอบด้วยกุ้งอบเกลือ กุ้งอบวุ้นเส้น ปลากระพงราดพริก หอยนางรมสดๆ ที่เพิ่งไปแงะมา กับหอยแครงลวกที่งมเหลือจากเมื่อวาน งมรอบเดียวทานได้สองมื้อใหญ่ๆ อาหารเยอะจนทานไม่หมด ป้าเอื้อนต้องห่อใส่ถุงให้กลับไปทานต่อที่บ้านแน่ะ นี่ขนาดว่าเป็นคนกินเก่งแล้วนะครับ (ฝีมือทำอาหารของป้าเอื้อนไม่แพ้ร้านอาหารใหญ่ๆ ที่เปิดตลอดเส้นทางที่เข้ามาบางขุนเทียนชายทะเลเลย เอาเข้าจริงๆ อาจจะอร่อยกว่าบางร้านเสียด้วยซ้ำไปครับ)
การมาพักที่นี่ ถ้าไม่ติดสบาย ติดความหรูหรา การมาพักผ่อนกับความเงียบ กับลมทะเลเย็น ๆ กับอาหารอร่อย ๆ ได้ทำกิจกรรมที่ท่านไม่เคยได้ทำ งมหอยแครง แคะหอยนางรม ได้ประสบการณ์กลับไปโม้ได้อีก ได้ออกกำลังแขนพายเรือคายัค เพียง 700 บาทต่อท่าน นั้นคุ้มค่าเกินราคา หรือถ้าหาเวลามานอนค้างไม่ได้ จะเข้ามาทานอาหารแต่เพียงอย่างเดียว ลุงสอนและป้าเอื้อนก็จัดให้ได้ เพียง 200 บาทต่อท่าน จะนั่งจะนอนนานแค่ไหนก็แล้วแต่ ไม่มีว่ากัน แต่จะทำการรับรองแค่ครั้งละคณะเท่านั้นนะครับ ไม่มีการรวมกลุ่มปนเปกับกลุ่มอื่นๆ ดังนั้น ถ้าสนใจที่จะเข้ามาพัก หรือทานอาหาร ให้โทรมาสอบถามกับลุงสอนนัดแนะวันเวลากันเสียให้เรียบร้อยครับ
ไม่ลงรูปเยอะๆ เหมือนรีวิวทั่วไปนะครับ แค่มาเล่าให้ฟัง เพราะมีความคิดว่า อยากให้ท่านได้มาพบเห็นด้วยตาและเก็บเป็นประสบการณ์ของตัวท่านเองมากกว่า ดูรูปเยอะๆ แล้วไม่ต้องไปก็ได้ครับ การไปเที่ยวไม่ว่าที่ไหนๆ พี่พัศจะไม่คาดหวังกับสิ่งที่จะได้รับกลับมา ดังนั้น มักจะได้ความประทับใจเกินกลับมาทุกครั้งเลยทีเดียวครับ อ่านแล้วชอบ อยากไปลองสัมผัส ติดต่อกับลุงสอนได้โดยตรงตามเบอร์ด้านล่างเลยครับ
ชุมชนแสนตอ โฮมสเตย์ ท่องเที่ยวเชิงเกษตร
โทรศัพท์ 087-071-7242, 0-2849-1640
งบประมาณ 700 บาทต่อท่าน
แนะนำให้โทรช่วงเช้าถึงเย็นนะครับ ลุงสอนนอนเร็วตื่นเช้า สัญญาณอาจติดบ้างไม่ติดบ้างแล้วแต่คลื่นลม หรือบางครั้งแกอาจจะไม่ได้ยิน ขยันโทรนิดนึงครับ